วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557

จะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อใด ควรเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนแล้ว

จะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อใด ควรเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนแล้ว






ชนิดใบปัดน้ำฝน
ใบปัดน้ำฝนแบ่งออกเป็น 2 ขนิดด้วยกันคือ






แบบที่ 1 แบบไร้โครง ( FRAMELESS DESIGN ) หรือที่เรียกกันว่า แบบก้านอ่อน 

                 ใบปัดน้ำฝนแบบไร้โครงเหล็ก (FRAMELESS DESIGN) ท่านจะไม่สามารถสังเกตเห็นแขนของใบปัดและตัวยางปัดน้ำฝนเลย เพราะไม่มีโครงเหล็ก แต่จะมีแกนเหล็กทดแทนถูกฝังไว้ในเนื้อยาง ใบปัดแบบไร้โครงเหล็กนี้ มีคุณสมบัติในการปัดน้ำได้ดี เรียบ และแนบสนิทกับกระจกมากว่าแบบทั่วไป  เนื่องจากน้ำหนักของใบปัดจะถูกกระจายไปทั่วเท่า ๆ กัน MULTIPLE PRESSURE POINTS (กระจายแรงดันหลายจุด) ทั้งแขนใบปัด ทั้งยังมีดีไซน์ที่ให้ความสปอร์ตและยังเหมาะกับรถยนต์ทุกรุ่น*อีกด้วย จะเห็นได้ตามรถบางรุ่นเช่น รถยุโรป รถโตโยต้าแคมรี่ Benz และ BM เป็นต้น




แบบที่ 2 แบบโครงเหล็กทั่วไป หรือที่เรียกกันว่า แบบก้านแข็ง 

ใบปัดน้ำฝนแบบนี้เป็นแบบดั้งเดิม  ท่านจะสังเกตเห็นโครงเหล็กแขนยางปัดน้ำฝน  และใบปัดน้ำฝน  แบบนี้มีให้เห็นโดยทั่วไป  ใบปัดน้ำฝนชนิดนี้จะใช้ได้ดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้

-    คุณภาพของยาง  ยางคุณภาพดีส่วนมากก็มาจากประเทศไทยและมาเลเซีย  ผู้ผลิตจะใส่สารปรุงแต่งบางตัวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น สารต่อต้านแสงยูวี คาร์บอนแบลค
-    จำนวนจุดที่เป็นข้อต่อบนแขนของใบปัดน้ำฝน  ยิ่งมีจุดข้อต่อมาก ยิ่งกระจายแรงกดไปบนยางรีดน้ำฝน  ทำให้ใบปัดน้ำฝนปัดน้ำได้สะอาดเกลี้ยงเกลา  ไม่ทิ้งคราบน้ำ
-     การออกแบบโครงเหล็ก  ปัจจุบันมีผู้ผลิตหลายรายออกแบบโครงเหล็กให้มีความโค้งมนรับกับแรงลมตามหลักอากาศพลศาสตร์  ทำให้เกิดการกระพือของใบปัดน้ำฝนน้อยแม้จะวิ่งรถด้วยความเร็วสูง 





ข้อควรระวังในการเลือกใบปัดน้ำฝน

1.    การเลือกใช้ใบปัดน้ำฝนนั้น  ท่านสามารถสังเกตรุ่นรถยนต์ของท่านได้จากข้างบรรจุภัณฑ์ของผู้ผลิตใบปัดน้ำฝน  ผู้ผลิตหลายรายป้อนอะไหล่ใบปัดน้ำฝนให้กับทั้งโรงประกอบรถยนต์ และยังมีจำหน่ายในตลาดด้วย

2.    เมื่อเลือกซื้อใบปัดน้ำฝน  ไม่ควรเลือกซื้อใบปัดเก่าเก็บ  เพราะยางบนใบปัดน้ำฝนนั้นมีอายุ  บางครั้งผู้จำหน่ายไม่สามารถจำหน่ายสินค้าได้หมดภายในหน้าฝนปีก่อน  ก็จะนำออกมาจำหน่ายในปีถัดไป  เพราะส่วนใหญ่ผู้ใช้รถมักจะเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนในช่วงหน้าฝนเท่านั้น

3.    หากบนใบปัดน้ำฝนมีการะบุภาษาอังกฤษตัวย่อบนใบปัดเช่น อักษร “D” ย่อมาจาก “Driver” ให้ผู้ใช้รถทุกท่านเข้าใจว่าใบปัดใบนั้นให้ติดตั้งฝั่งคนขับ  ส่วนอักษร “P” ย่อมาจาก “Passenger”  ก็คือฝั่งคนนั่งนั่นเอง

4.    ให้สังเกตว่ารถรุ่นใหม่ ๆ ทุกวันนี้ก้านใบปัดน้ำฝนทางฝั่งคนขับ และคนนั่งจะมีขนาดที่ไม่เท่ากัน เช่น โตโยต้าวีออส เป็นต้น มีขนาดใบปัดโดยประมาณ 14” และ 21”  ดังนั้นเวลาท่านซื้ออาจจะเลือกแบบแพ๊คสำเร็จสำหรับรุ่นนั้น ๆเลย  หรือหากแยกซื้อเป็นกล่อง ๆ ก็ต้องระวังเรื่องนี้ไว้ด้วย




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น